Guilty Crown
Rate: 18+
Genre: Action
Studio: Production I.G
Debut: October 2011
Episode: 22
....หากเพื่อหาความหมายใหม่ให้ชีวิต
คุณจะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองสักแค่ไหน?....
เมื่อคุณโหยหาการยอมรับจากมิตรสหาย
จากคนที่คุณรัก จากคนที่คุณยอมรับและนับถือ คุณยินดีทำทุกสิ่งหรือไม่เพื่อให้ได้มันมา
และในยามที่ความปรารถนานั้นหลุดลอยไปไกลสายตา หากคุณได้รับมาซึ่งพลังที่จะรั้งมันเอาไว้
คุณพร้อมจะแลกมันกับเลือดและหยดน้ำตาของคนรอบข้างหรือไม่
เพียงแค่เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญของคุณไม่ให้มันถูกทำลายลงไป
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นในปี
2029 วันคริสต์มาสอีฟที่ทั่วญี่ปุ่นจดจำในชื่อของ The Lost Christmas วันที่ญี่ปุ่นสูญเสียประชากรจำนวนมากไปจากการแพร่กระจายของไวรัสและเอกราชเพื่อยับยั้งไม่ให้ประชากรที่เหลืออยู่ย่อยยับตามไป
สิบปีต่อมา
เด็กหนุ่มอย่าง โอม่า ชู ได้พบกับไอดอลหญิงสาวที่เขาชื่นชม ยูสึริฮะ
อิโนริ ผู้มอบพลังที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ รวมทั้งเป็นกุญแจไขอดีตที่ถูกลืม
อดีตที่จะทำให้ชีวิตของเขาและคนรอบข้าง...
...เปลี่ยนแปลงไป
ตลอดกาล...
ดูเผินๆแล้ว Guilty
Crown (จากนี้ไปจะขอเรียกย่อว่า
กิลล์ตี้คราวน์)ก็เหมือนกันการ์ตูนแอคชั่นทั่วไปแต่กลับสามารถฉายด้านมืดของมนุษย์ออกมาในรูปแบบใหม่ๆได้อย่างแหวกแนวและน่าสนใจ
เต็มเปี่ยมไปด้วยดราม่าและโศกนาฏกรรมจากการต่อสู้ในสนามรบที่หลักศีลธรรมความถูกผิดแทบจะไม่มีความหมาย
นอกจากนั้นยังสามารถสร้างความกดดันให้กับผู้ชมเกือบตลอดเวลา และมีความสามารถที่จะกลายเป็นการ์ตูนชั้นดีได้อย่างไม่ยาก
แต่กิลล์ตี้คราวน์ก็ไม่สามารถถีบตัวเองไปถึงฝั่งฝันได้
เนื้อเรื่องที่สามารถจบลงตั้งแต่ครึ่งแรกก็ถูกดึงให้ยืดออกไปทำให้เนื้อเรื่องในครึ่งหลังประสบปัญหาตามมา
ถึงแม้ว่าจะน่าสนใจแต่กลับไม่น่าติดตาม ขาดความลึกซึ้งเมื่อเทียบกับเนื้อเรื่องในช่วงต้น
ขาดเสน่ห์และความสดใหม่ และจากการที่ดำเนินเรื่องไปในทิศทางเดิมๆ
รวมทั้งมีการรีไซเคิลพล็อตเก่าๆมาใช้...
...ก็ส่งผลให้เนื่อเรื่อง
ตกต่ำลงไปอย่างน่าเสียดาย...
กิลล์ตี้คราวน์มีตัวละครอยู่มากมาย
และมีตัวละครหลักที่มีบทบาทโดดเด่นเหนือใครอยู่ไม่น้อยอย่าง อิโนริ หรือ ไก
แต่การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังคงประสบปัญหาเช่นเดียวกันการ์ตูนที่มีตัวละครอยู่มากเรื่องอื่นๆคือการกระจายบทบาทได้ไม่ทั่วถึงไม่เท่าเทียม
แม้ว่าจะโดดเด่นขึ้นมาได้ด้วยพล็อตหลักและรองของเรื่องแต่ก็ไม่เพียงพอ และการยืดเนื้อเรื่องทำให้บทบาทของตัวละครเด่นบางตัวไม่น่าจดจำจนถึงขั้นที่กลายเป็นตัวประกอบชั้นรองไป
ถึงกระนั้นตัวเอกอย่าง
ชู ก็มีส่วนช่วยอยู่มาก นอกเหนือจากการเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว
ชูยังทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจของมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งดีและชั่วปะปนกัน
การเลือกทางเดินของเขาไม่ว่าผิดหรือถูก แต่ละครั้งก็ส่งผลให้เนื้อเรื่องมีมิติมากขึ้นและทำให้ตัวละครรองตัวอื่นๆโดดเด่นขึ้นมาเป็นผลพลอยได้
และสะท้อนอารมณ์ดิบของมนุษย์ อย่างความปรารถนา ความรู้สึกผิดชอบ ความหลงลืมตัวตน
ความพลาดพลั้ง และ...
...การไถ่บาป
ออกมาได้อย่างงดงาม...
งานศิลป์คืออีกหนึ่งจุดเด่นของกิลล์ตี้คราวน์
อนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละครแต่ละตัว ฉากต่อสู้แต่ละฉาก
การเคลื่อนที่ของอาวุธหรือวัตถุแต่ละอย่างต่างทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อเทียบกับอนิเมชั่นของการ์ตูนเรื่องอื่นๆในช่วงเวลานั้น
ฉากจำลองอนาคตอันใกล้ก็ดูสมเหตุสมผลน่าเชื่อถือ
แม้จะเก็บรายละเอียดได้ไม่สมบูรณ์นัก และยังมีส่วนที่ขาดๆเกินๆ
รวมทั้งยังมีจุดที่ดูขัดๆจากการผสานอนิเมชั่นแบบ 2D เข้ากับโพลีกอน
3D อยู่บ้าง แต่ทั้งสเปเชียลเอฟเฟกต์
งานศิลป์และอนิเมชั่นของกิลล์ตี้คราวน์...
...ก็ยังคู่ควร
ที่จะครองมงกุฏให้สมชื่ออยู่ดี...
แต่ก็น่าเสียดายที่แม้ทั้งงานพากย์
ดนตรีประกอบฉาก และเสียงเอฟเฟกต์พิเศษทำออกมาได้ตามมาตรฐานแต่กลับไม่โดดเด่น
เสียงปืนรัวกระหน่ำ เสียงกระทบกันของโลหะ เสียงลมที่พัดผ่านตามตึกร้าง
เสียงฝนที่หลั่งไหลลงมา ล้วนแล้วแต่ธรรมดาหาความพิเศษไม่ได้และในบางครั้งฟังดูไม่สมจริง
ส่งผลให้อารมณ์ร่วมกับการ์ตูนลดลงไประดับหนึ่ง
กิลล์ตี้คราวน์ประสบกับปัญหาในเกือบทุกส่วนประกอบของตัวการ์ตูน
ก่อให้เกิดจุดเสียมากมายจนอาจจะทำให้ผู้ชมบางส่วนเลือกจะเบือนหน้าหนีไป
แต่ในช่วงครึ่งแรกนั้น กิลล์ตี้คราวน์มอบอารมณ์ทั้งบุ๋นบู๊ให้กับคอการ์ตูนแอคชั่น
และเสริมมันด้วยไอเดียที่สดใหม่
ทั้งยังสามารถสร้างความกดดันและย้อมเนื้อเรื่องให้มืดมนจนถูกคอของผู้ชมบางกลุ่ม แถมด้วยตัวละครเอกที่น่าสนใจ
ตัวละครเสริมที่ชวนให้หลงไหล และตราบาปในใจของมนุษย์นั้น...
...ได้ถูกดึงออกมาส่องสว่างกระจ่างตา
ดุจดั่งมงกุฏสีนิลของเหล่าฝูงกา...
N.Rei
Overall
Score: 6/10
เนื้อเรื่อง
5.5/10 ตัวละคร 6.5/10 งานศิลป์ 8/10 งานเสียง 5.5/10